ตอน 6: หัวใจที่มีรอยรั่ว
กับภาพเด็กสาวที่ชินตาไปแล้วสำหรับดวงดาว เธอนั่งอย่างคนครุ่นคิด ศีรษะเอนอิงพิงไปที่ต้นไม้ต้นนั้นต้นเดียวที่เธอปลูก ใบหน้าไม่ค่อยสดใสเท่าที่ควร ราวกับว่าเด็กสาวแบกความทุกข์ใจอะไรไว้กับตัวอีกเช่นเคย ดวงดาวเอ่ยถาม “ฉันไม่อยากเห็นเด็กสาวที่เปี่ยมด้วยฝัน” ของฉันคนนี้ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าแบบนี้เลย เด็กสาวได้ยินเช่นนั้น รีบตอบดวงดาวทันทีว่า “ฉันไม่ได้เป็นอะไรนะดวงดาว” พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก เพื่อกลบเกลื่อนสายตาที่จ้องจับผิดบนใบหน้า เมื่อได้ฟังเช่นนั้นดวงดาวจึงหยุดนั่งลงข้างเด็กสาวของเค้าด้วยความห่วงใย เด็กสาวเปลี่ยนอิริยาบท โยกศีรษะมาเอนอิงพิงที่ไหล่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของดวงดาว “ฉันแค่สงสัยว่า หัวใจตัวเองมีรอยรั่วหรือเปล่า?” ดวงดาวยิ้มในคำถามของเด็กสาว อะไรคือหัวใจที่มีรอยรั่ว? อธิบายให้ฉันฟังหน่อยสิ เด็กสาวตอบด้วยแววตาที่อยากสื่อให้ดวงดาวเข้าใจว่า “ก็หัวใจของฉันน่ะสิดวงดาว” มันรู้ร้อน รู้หนาว กับทุกๆ เรื่องไปหมด ทั้งที่บางครั้งฉันพยายามบอกมันว่า ให้อยู่เฉยๆ เสียบ้าง จะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวดเวลาที่ใครแสดงอะไรออกมาในแบบที่เราไม่อยากจะเห็น หรือไม่อยากจะได้ยินมัน แต่หัวใจเจ้ากรรมมันไม่ฟังเจ้าของบ้างเลย ฉันเลยรู้สึกว่าตัวเอง “อ่อนแอนัก” เพราะไอ้หัวใจที่มีรอยรั่วทั้งหลายนี่ไง “แล้วรอยรั่วเหล่านั้นมาจากไหนล่ะ?” คนอื่นเค้าทำให้มันรั่วหรือไร? เด็กสาวแหงนมองหน้าดวงดาวอย่างครุ่นคิด จริงๆ แล้วคนอื่นเค้าคงทำรอยรั่วไว้เพียงบางๆ แต่เพราะฉันเองต่างหากที่เอาสองมือตัวเองไปกระชากรอยรั่วเหล่านั้นให้มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เพราะเหตุผลที่ว่าจะได้จดจำกับรอยแผลที่ใหญ่โตได้ดีกว่าใครๆ สุดท้ายกลายเป็นว่าแผลนั้นกลับไม่เคยหายขาด… ดวงดาวเอามือโอบไหล่เด็กสาวอย่างคนห่วงใย เธอรู้ไหม? ว่าหัวใจใครๆ ก็มีรอยรั่ว แต่มันเป็นเพียงรอยรั่วที่บางเบาเหมือนที่เธอบอก คนที่หัวใจไม่มีรอยรั่วเลย ก็คงเหมือนลูกโป่งที่รับอะไรเข้าไป แล้วค่อยๆ พองขึ้น พองขึ้น พอมันเต็มจนถึงที่สุด ลูกโป่งนั้นก็แตกไม่คงรูปความสวยงามเหมือนตอนที่มีลมอยู่ข้างใน แต่ถ้ามันมีรอยรั่วสักนิด ถึงแม้ว่าเราจะพยายามเป่าลมเข้าไปเพื่อให้มันพองโตขนาดไหน มันก็ไม่มีวันเต็ม เพราะรอยรั่วเล็กๆ นั้นจะคอยรับความรู้สึกข้างในออกไปทีละนิด ทีละนิด แต่ย้ำว่ารอยรั่วเพียงนิดเดียวเท่านั้นนะ ดวงดาวหันมายิ้มให้เด็กสาว “แล้วฉันจะรักษาแผลให้เล็กลงได้อย่างไรล่ะดวงดาว?” เพื่อที่ว่าหัวใจฉันจะเหลือรอยรั่วเพียงนิดเดียวเหมือนอย่างเช่นคนอื่นเขาบ้าง ดวงดาวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนตอบเธอว่า เมื่อเธอใช้สองมือตัวเองกระชากรอยแผลนั่นให้ใหญ่โต ก็ใช้สองมือตัวเองประสานรอยรั่วเข้ามาให้เหมือนเดิมได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าอาจต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า “เวลา” และจำไว้เสมอว่า แม้คนอื่นจะช่วยเธอรักษารอยรั่วนั้นได้ก็ใช่ว่าคนๆ นั้นจะมีเนื้อเยื่อที่เข้ากันได้สนิทเหมือนเช่นของตัวเธอเองเสมอไปนะ รอยรั่วนี้จะไม่มีวันหายขาด เธอต้องให้มันเหลือเพียงรอยบางๆ เพื่อที่ว่าวันที่อ่อนไหว น้ำตาจะไหลรินออกมาได้เหมือนคนทั่วไป ถ้าเธอรักษามันจนไม่เหลือรอยรั่วใดๆ เลย วันที่อ่อนไหว น้ำตาจะหลั่งรินออกมาทางไหน สุดท้ายก็คงไม่ต่างจากลูกโป่งที่ระเบิดแตก แล้วความสวยงามก็ลอยหายไปกับตา คนที่หัวใจไม่มีรอยรั่วก็ใช่ว่าจะ “แข็งแรง” เสมอไป และคนที่หัวใจมีรอยรั่วก็ใช่ว่าจะ “อ่อนแอ” เสมอไป แต่ถ้าเธอคอยกระชากรอยรั่วนั้นให้ใหญ่ขึ้นเสมอนั่นล่ะคือคนอ่อนแอ เพราะนั่นคือเธอกำลังทำร้ายหัวใจตัวเองมิใช่หรือ…เด็กสาวพยักหน้ารับให้ดวงดาว ฉันเข้าใจแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะพยายามรักษารอยรั่วให้เหลือเพียงรอยบางเบาที่คอยซับความอ่อนไหวออกมาบ้างในเวลาที่หัวใจเก็บอะไรไว้เยอะเกินไปแล้ว เด็กสาวยิ้มกว้างขึ้นพร้อมโบกมือลาดวงดาวที่กำลังเดินห่างออกไปทีละนิด ดวงดาวหยุดเดิน ค่อยๆ หันหน้ามาพูดกับเด็กสาวด้วยรอยยิ้มว่า “หัวใจฉันก็มีรอยรั่วเท่าๆ กับเธอนะ” ก่อนจะโบกมือให้เด็กสาวอีกรอบ แล้วหันหลังเดินจากไป