โดยส่วนตัวแล้วพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์เดินทางไปจังหวัดตรังบ่อยมาก และมีอยู่ช่วงหนึ่งเขาไปตรังแทบทุกสุดสัปดาห์คือในช่วงที่ทำสายการบิน ด้วยพื้นฐานนั้นเป็นคนชอบทะเลมาก เมื่อไปถึงตรังจึงไปเที่ยวที่ต่างๆ รวมถึงตามเกาะ แม้กระทั่งเคยไปถ่ายมิวสิควีดิโอที่เกาะเหลาเหลียงเพื่อโปรโมทเกาะและการท่องเที่ยวหรือสิ่งต่างๆ ให้คนภายนอกได้เห็น 

 

 

     “ผมพยายามจะทำอะไรมากกว่านี้ด้วย เช่นพยายามจะทำเรือที่พาไปเกาะลันตา ดูจากตัวอย่างนี้จะเห็นว่าเกาะลันตาเป็นของกระบี่ถ้ามาลงที่ตรังแล้วไปจะง่ายกว่าเยอะแต่คนไม่เข้าใจคิดว่าต้องลงกระบี่ ผมเคยแม้กระทั่งอยากไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตรัง

     “ผมอยากให้ตรังเป็นแหล่งออกสู่สายตาโลก จุดเด่นของตรังผมก็ยังแปลกใจอยู่ ที่แปลกใจก็เพราะว่าตรังไม่ได้ห่างจากภูเก็ตมาก ผมคิดว่าสิ่งที่ตรังกลัวก็คือการเข้ามาท่องเที่ยวแล้วทำให้ธรรมชาติเสียหาย ปัญหาเดียวกับที่เกิดขึ้นกับทั้งภูเก็ตและกระบี่ที่เริ่มจะเจอปัญหาแบบนี้แล้ว  ตรังจึงแก้ปัญหาด้วยการหยุด...ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา คนจะได้ไม่พลุกพล่านและทำให้ธรรมชาติเสื่อมลง แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่ามันไปด้วยกันได้ หากเราสามารถค่อยๆ ปลูกฝังค่านิยมของคน ประกอบกับการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวอย่างมีระบบ จะทำให้ตรังเป็นสถานที่ที่มีธุรกิจท่องเที่ยวที่ดีกับการไม่ถูกรุกรานทางธรรมชาติไปได้พร้อมกัน”

 เขามองว่าตรังมีศักยภาพเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีได้ โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน แม้จะได้กำไรเฉพาะช่วงไฮซีซั่นกลับกันในช่วงโลว์ซีซั่นคนน้อยมากเพราะมีมรสุม แต่อย่างไรก็ตามเขาเล็งเห็นว่าแม้จะเป็นฤดูมรสุมแต่เสน่ห์ของตัวเมืองตรังมีอยู่มาก และมีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างความน่าสนใจด้านการเที่ยวในเมืองตรัง

 “นกแอร์พยายามสร้างกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นที่ตรังเช่นกัน วิธีการที่ผมเห็นส่วนใหญ่ที่สามารถขับเคลื่อนได้ คือ ทำให้เกิดการตื่นตัวในพื้นที่ในตัวมันเอง คือถ้าเราสามารถทำให้มันฮิตได้ขึ้นมาคนก็จะเริ่มไป ผมไม่ได้พูดถึงแค่ท้องถิ่นแต่พูดถึงระดับนานาชาติเลย ผมคิดว่าวิธีการตอนนี้ที่ง่ายที่สุดคือเอาคนดังระดับฮอลลีวูดมาก็เป็นไปได้ถ้าเขามาแล้วซื้อบ้านซึ่งที่สมุย ที่ภูเก็ตก็มีแล้ว”

 “ในที่สุดแล้วพอเปิดประตูมาเห็นเกาะที่เป็นความงามทางธรรมชาติซึ่งเราไม่ต้องไปสร้างอะไรเลย ส่วนที่เราต้องดูแลก็คือความสะอาด หรืออะไรก็ตาม สถานที่ขายของที่เป็นระเบียบที่ดูแล้ว มันดูดี พวกนี้เขาไม่สนหรอกว่าจะเป็นกระท่อมหรือเป็นอะไร เขาก็อยากเห็นอะไรที่มันเป็นไทยอยู่แล้ว แต่มันต้องมีระเบียบด้วย และสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับการให้ความรู้ความเข้าใจคนในตรังเอง เกี่ยวกับระเบียบในเรื่องของพวกนี้ ในขณะเดียวกันเราก็ประชาสัมพันธ์ไปด้วย เป็นการผสมผสานทั้งเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์ควบคู่กันไป ทำก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาจนเต็มไปหมดแล้วเราก็เอาแต่ขายๆๆ ทำเงิน จนขาดความเป็นระเบียบไป”

 “ผมแนะนำบินไปดูฮาวายเลย ไปดูว่าเขาทำกันอย่างไรจากยุค 1960 มาจนถึงปัจจุบัน มีแต่คำว่าดีขึ้น ทำไมเราไม่ดูเขาเป็นตัวอย่าง ดูเป็นมาตรฐาน ซึ่งผมคิดว่าถ้าเราตั้งใจวางแผนจริงๆ เราเป็นเมืองตัวอย่างได้”