แม้จะไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวยอดฮิตของภาคใต้ จนติดอันดับในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างภูเก็ตหรือกระบี่ แต่ความหลากหลายของภูมิทัศน์ และวิถีวัฒนธรรมที่มีสีสันยิ่ง ของอดีตเมืองท่าสำคัญของฝั่งทะเลอันดามันอย่างเมืองตรัง ก็ทำให้ผู้ที่เคยมาเยือนหลายคนติดอกติดใจ จนต้องกลับมาเยี่ยมชมและชิมของอร่อยมากมายในเมืองนี้อย่างสม่ำเสมอ

     เพราะความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ที่มีน้ำดี ดินดี มีป่าเขาลำเนาไพร อีกทั้งยังมีหาดทรายชายทะเลอันสวยงาม ทำให้ตรังเป็นเมืองที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจมั่นคงด้วยอาชีพทางการเกษตร การประมง และการธุรกิจการค้า แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ที่ค่อนข้างสงบ แต่ก็มีสนามบินเป็นของตัวเอง และมีเที่ยวบินให้เดินทางไปกลับได้อย่างสบายถึงวันละ 2 เที่ยวบิน นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางรถไฟและรถทัวร์ สำหรับผู้ที่ไม่เร่งรีบกับการเดินทาง ได้นั่งเล่นชมวิวทิวทัศน์ของเมืองใต้ ไล่จากประจวบคีรีขันธ์ ผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ก่อนจะมาถึงตรังในยามเช้า เพื่ออร่อยกับหมูย่างเมืองตรัง และเมนูอาหารเช้าในร้านกาแฟแบบชาวตรังที่เป็นวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ของที่นี่

ตรังเป็นเมืองน้ำ สัญลักษณ์ของตรังจึงเป็นรูปคลื่น คงจะไม่ผิดเลยหากจะบอกว่า วิถีชีวิตอันอิ่มเอมของชาวตรังนั้น เป็นผลมาจากความสมบูรณ์ของที่ผสมผสานกันอย่างพอเหมาะพอเจาะ ระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็มของแม่น้ำตรังและมหาสมุทรอันดามันนั่นเอง
 

    แม่น้ำตรัง หรือแม่น้ำท่าจีน เป็นสายธารสำคัญประดุจเส้นเลือดใหญ่ ที่มอบความชุ่มชื้นและความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนดินแถบนี้มีความเหมาะสมต่อการทำเกษตรกรรมต่างๆ ได้ตลอดแทบทั้งปี ซึ่งสินค้าเกษตรลำดับต้นๆ ของเมืองตรังก็คือ ยางพารา และปาล์ม ซึ่งทำรายได้ให้ชาวสวนเมืองตรังกลายเป็นเศรษฐีเล็กเศรษฐีใหญ่กันถ้วนหน้า อีกทั้งยังเป็นแหล่งอยู่อาศัยของสัตว์น้ำจืดพื้นถิ่นที่กลายเป็นอาหารขึ้นชื่อจากอดีตมาจนปัจจุบันคือ ปลาและกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ จากแม่น้ำตรังที่โอบล้อมด้วยป่าจาก ป่าสาคู และป่าลำพู ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้ยังคงมีหิ่งห้อยอวดแสงวิบวับให้เห็นได้ในยามราตรี และความสมบูรณ์ของสายน้ำแห่งมหาสมุทรอันดามัน ที่ทำให้ท้องทะเลตรัง และป่าชายเลนริมฝั่ง เป็นแหล่งอาหารทะเลสดอร่อย ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา มาเป็นเมนูอวดแขกบ้านแขกเมืองให้อิ่มหมีพลีมัน จนทำให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการกินที่โด่งดังไปทั่วประเทศ ส่งผลให้คนทั่วไปรู้จักเมืองตรังในฐานะเป็น ‘เมืองนักกิน’ ที่มีอาหารรสเลิศไว้เอาอกเอาใจผู้มาเยือนอย่างหลากหลายในทุกฤดูกาล

     ข้อแนะนำสำหรับการมาเที่ยวตรังในครั้งแรกๆ คือต้องเผื่อเวลาให้พอเหมาะกับการทำความรู้จักกับดินแดนแห่งนี้ ทั้งในภาคพื้นดินที่มีวิถีชีวิตเมืองตรังเป็นจุดเด่น, ภาคน้ำจืดที่มีทั้งแม่น้ำ น้ำตก ป่าเขาลำเนาไพร สวน และ ภาคน้ำเค็ม ที่มีทั้งหาดทรายชายทะเล และเกาะแก่งในมหาสมุทรอันดามัน ซึ่งน่าจะใช้เวลาสบายๆ ราว 3 คืน 4 วัน กำลังเหมาะ

 เครื่องบินเที่ยวเช้าถึงสนามบินตรังราวแปดนาฬิกา แม้จะสายไปหน่อยสำหรับเวลาอาหารเช้าของชาวตรังพื้นถิ่น แต่ก็ไม่ช้าเกินไปที่จะหาร้านกาแฟเมืองตรังเพื่อรับประทานมื้อเช้าก่อนเตรียมไปเที่ยวทะเลในช่วงบ่าย บนโต๊ะอาหารเช้ามื้อใหญ่แบบตรังแท้ๆ จะมีติ่มซำมากมายหลายชนิดที่สร้างสรรค์กันมาให้เลือกชิม คู่กับน้ำชา กาแฟแบบโบราณ แกล้มด้วยหมูย่างสูตรต้นตำรับและปาท่องโก๋ ซึ่งอาจทำให้หลายคนสงสัยว่า ทำไมคนเมืองนี้จึงมีเวลามากมายกับมื้อเช้าขนาดใหญ่ เหตุใดจึงไม่รีบกินแล้ววิ่งขึ้นรถไปทำงานเหมือนเมืองอื่นๆ คำตอบคือ วิสัยคนตรังดั้งเดิมนั้นเป็นคนตื่นเช้ามาก หากเป็นชาวสวนยาง ก็จะตื่นตั้งแต่ตีสี่ตีห้าไปกรีดยาง ส่วนพ่อค้าแม่ค้า หรือคนทำธุรกิจอาชีพอื่นๆ ก็จะตื่นมาทำภารกิจต่างๆ รวมถึงการเจรจาซื้อขายสินค้าเกษตรต่างๆ ให้เสร็จกันตั้งแต่ก่อนไก่โห่ หลังเปิดร้านเรียบร้อยแล้วก็ให้ลูกจ้างเฝ้าร้าน ส่วนเจ้าของสวน เจ้าของร้าน หรือบรรดาเถ้าแก่ รวมถึงข้าราชการทั้งหลาย ก็จะพากันมานั่งสังสรรค์ละเลียดอาหารเช้า จับเข่าคุยการเมือง ถกเรื่องธุรกิจกัน ในสภากาแฟที่มีอยู่ทั่วทุกมุมเมือง โดยไม่ต้องรีบร้อน เพราะรถราไม่ได้ติดขัดเหมือนในกรุงเทพฯ คุยกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำงานทำการของตนก่อนเสียงเพลงชาติจะดังขึ้น

ช่วงรอยต่อระหว่างเช้ากับเที่ยง อากาศยังไม่ร้อน  ถ้าอยากพิสูจน์ความอุดมสมบูรณ์ของตรังก็นั่งรถออกไปจากตัวเมืองไม่เกินสิบนาที ก็จะได้ทึ่งกับสวนป่าขนาดใหญ่พื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ที่อยู่ไม่ไกลอาณาบริเวณเมืองตรัง มีบันไดยอดไม้เก๋ไก๋ให้เดินชมความเขียวขจีของผืนป่าได้จากมุมสูง ได้เห็นต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุร้อยๆปี ขนาดลำต้นหลายคนโอบ ซึ่งอยู่มานานจนแทบจะยกมือไหว้เป็นปู่เป็นทวดได้เลยทีเดียว

     เดินป่ากันพอเหงื่อซึมๆ ก็กระโดดขึ้นรถเย็นฉ่ำมุ่งไปทะเล ระยะเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงบนเส้นทางที่สวยงาม สองข้างทางบนถนนเมืองตรังนั้นเขียวชอุ่มเพลินตา มาถึงชายหาดที่มีชื่อว่า ปากเมง มีร้านอาหารทะเลสดๆ ไว้บริการมื้อเที่ยงริมทะเลอร่อยจุใจ โดยมีเมนูที่คนพื้นถิ่นแอบแนะนำคือ หอยชักตีน จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด

     อิ่มกับมื้อเที่ยงแล้วก็ได้เวลาลงเรือเที่ยวทะเลตรัง ที่ท่าเรือหาดปากเมงมีเรือบริการพาเราเที่ยวชมเกาะแก่งต่างๆ ซึ่งพลาดไม่ได้คือการไปว่ายน้ำเข้าถ้ำมรกต เป็นหนึ่งในประสบการณ์ยอดนิยมสำหรับผู้ที่รักท้องทะเลสีเขียวมรกตในแถบนี้

     เกาะแก่งในทะเลตรังที่เป็นจุดหมายของการท่องเที่ยวมีหลายเกาะ เช่น เกาะมุก เกาะรอก เกาะกระดาน เกาะสุกร และเกาะไหง เกาะเหล่านี้ส่วนใหญ่จะยังไม่มีโรงแรมหรือรีสอร์ทขนาดใหญ่ของนายทุนเข้าไปตั้งอยู่มากนัก ผู้ที่มาเยือนจึงได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์ ได้ดำน้ำดูปะการัง แหวกว่ายทักทายกับฝูงปลา ย่ำเท้าเปล่าบนผืนทรายที่ขาวละเอียด

     ระหว่างทางที่ล่องเรือชมทะเลตรัง บางจุดก็จะผ่านเวิ้งอ่าวที่ทะเลกับน้ำจืดมาพบกัน มีป่าชายเลนสวยๆ และบ้านเรือนของชาวประมงริมฝั่งให้ได้ชมและกดกล้องถ่ายรูปกันมือเป็นระวิง เพราะสีของท้องฟ้าตัดกับพื้นน้ำและรายละเอียดที่มีผิวสัมผัสน่าสนใจของภาพริมฝั่งน้ำนั้นสวยงามจับตา และหาดูได้ยาก 

หลังจากใช้ชีวิตกับท้องทะเล นอนนับดาวเพลินใจกันไปแล้ว ก็กลับมาสนุกกับวิถีชีวิตบนดินในเมืองตรัง มีไฮไลท์คือนั่งรถตุ๊กๆหัวกบเที่ยวชมเมืองในยามเช้า เดินตลาด ช้อปปิ้งซื้อของพื้นเมือง พอแดดร่มลมตก ก็ได้เวลาไปเที่ยวหย่อนอารมณ์ริมแม่น้ำตรัง โดยมีเมนูอร่อยประจำถิ่นหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว คือกุ้งแม่น้ำตรังตัวเขื่องๆ รสชาติแสนอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศเย็นฉ่ำของลำน้ำตรัง ในป่าลำพู ลมพัดเย็นสบาย

     ตรังไม่ใช่เมืองโลกีย์ แต่ยามค่ำในเมืองตรังนั้นมีสีสันด้วยร้านกาแฟที่เปิดขายตอนกลางคืน มีผู้คนทุกเพศทุกวัยมานั่งกินดื่มสนทนากันอย่างครึกครื้น บรรยากาศสนุกสนานไม่เป็นพิษเป็นภัย อาหารการกินเต็มโต๊ะเช่นเดียวกับมื้ออื่นๆ เป็นเครื่องยืนยันว่า เป็นเมืองที่อิ่มเอมจริงๆ

     สายน้ำอันชุ่มฉ่ำทำให้ตรังเป็นเมืองที่ชุ่มเย็น นอกจากแม่น้ำและทะเลแล้ว ตรังยังมีน้ำตกสวยๆ ให้เที่ยวชมอีกมากมายหลายแห่ง สิ่งที่ใครๆชอบนักเวลามาเที่ยวตรังคือความเขียวชะอุ่ม ไม่ว่าจะกันมองไปทางไหนก็ชื่นตาชื่นใจ และเมื่อล่องใต้เที่ยวตรังกันจนเพลินใจแล้ว ของฝากยอดนิยมที่พลาดไม่ได้ ก็คืออย่าลืมหิ้วเค้กตรังกลับไปฝากคนที่บ้าน เพราะน้ำไหนๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับน้ำใจ…จริงไหม

Text : วีร์วิศ (วรรณศิริ ศรีวราธนบูลย์)
Photo : www.dp-studio.com

ขอขอบคุณ คุณสลิล โตทับเที่ยง ที่ให้ความสนับสนุนทีมงานกองบรรณาธิการและช่างภาพ ทั้งที่พักและอาหารเช้ารสเลิศ ณ โรงแรมธรรมรินทร์ ธนา