ในห้วงเวลาที่ไม่ต่ำกว่ากึ่งศตวรรษ ผู้คนต่างถิ่นที่เดินทางไปมาโดยมีเมืองตรัง เป็นเมืองผ่านหรือเป็นเมืองจุดหมายปลายทางมีไม่น้อย ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน และถามถึงเรือกันตังพร้อมกับขนมเค้กนามแรกเป็นท่าเรือเก่าแก่เป็นเส้นทางคมนาคมจากแผ่นดินถึงเกาะที่มีชื่อเช่นเกาะภูเก็ตและปีนังอีกนามหนึ่งเป็นชื่อขนมที่ซื้อติดมือเป็นของฝากเรียกกันว่า เค้กขุกมิ่ง
     เค้กขุกมิ่ง ได้รับการกล่าวขานถึงอย่างกว้างขวางสื่อมวลชนสนใจนำข้อมูลไปเผยแพร่อย่างต่อเนื่องสถานีโทรทัศน์ในประเทศแต่ละช่องนำเสนอในรายการต่างๆเช่นตามไปดูเมนูจานเด็ดกระจกหกด้านรวมทั้งโทรทัศน์ B.B.C. ของฮ่องกงเข้าถ่ายทำสารคดีไปเผยแพร่
อะไรทำให้เค้กขุกมิ่งได้รับความสนใจจากสื่อเหล่านี้ตลอดทั้งผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาความอร่ยด้วยรสชาติที่กลมกล่อมการประชาสัมพันธ์เพื่อการท่องเที่ยวเท่านี้ไม่เพียงพอหากขาดเนื้อแท้ของความเป็นขุกมิ่งนั่นคือความเป็นมาของขุกมิ่งซึ่งฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคด้วยความทรหดอดทนขนัยขันแข็งจนประสบความสำเร็จเป็นแบบอย่างอันดีสำหรับบุคคลทั่วไป
     ขุกมิ่ง เกิดเมื่อพ.ศ. 2457 ณ เกาะไหหลำ ประเทศจีน เป็นบุตรคนสุดท้อง ในพี่น้องทั้งหมด 4 คนเมื่ออายุได้ 15 ปี เป็นช่วงอายุที่เกิดสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ทหารญี่ปุ่นคอยกวาดจับเด็กหนุ่มนำไปฆ่าเพื่อตัดกำลังของกองทัพจีน ด้วยความเป็นห่วงบิดา เลยตัดสินใจส่งลูกชายลงเรือให้หนีมาขึ้นฝั่งที่อำเภอสุไหงปาดีจังหวัดนราธิวาสใน ปี พ.ศ. 2472
     ขุกมิ่ง ผู้พลัดถิ่นเข้าสมัครทำงานเป็นลูกจ้างรับซื้อยางพาราด้วยเงินเดือน 7 บาท พร้อมทั้งรับจ้างแบกข้าวสารงานหนักอย่างไรก็อดทนพร้อมทั้งคิดหาลู่ทางทำมาหากินที่จะให้ก้าวหน้าขึ้นจึงเดินทางไปทำงานในร้านขายน้ำอัดลมที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ได้รับเงินเดือนเดือนละ 12 บาท ความขยันและซื่อสัตย์ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากนายจ้างมอบหมายตำแหน่งผู้จัดการสาขาที่จังหวัดตรัง ทำหน้าที่เก็บบัญชีจากลูกค้าต่างจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครศรีธรรมราช กระบี่ เข้าได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 25 บาท
     ลำภูรา เป็นตำบลหนึ่งของอำเภอเมืองตรัง เป็นเส้นทางผ่านไปอำเภอห้อยยอด และจังหวัดนครศรีะรรมราช  ขุกมิ่ง จะต้องเดินทางมาเก็บบัญชีและแวะดื่มกาแฟอยู่เสมอที่นี่ทำให้เข้าตัดสินใจหยุดการเดินทางด้วยการแต่งงานกับสาวพริ้ง แซ่ก้วน หญิงสาวที่เดินทางมาจากเมืองจีนเช่นเดียวกันแต่มาอาศัยตั้งรกรากอยู่ก่อน ขุกมิ่ง เปิดกิขการร้านกาฟเริ่มต้นขีวิตอย่างแท้จริงที่นี่
     บนถนนดินลูกรังจากลำภูราถึงทับเที่ยงอำเภอเมืองตรัง ระยะทางไปกลับประมาณ 26 กิโลเมตร ชายหนุ่มจากเกาะไหหลำปั่นจักรยานคู่ใจไปหาซื้อขนมนานาชนิดมาบริการลูกค้าในร้านของตนทุกๆเช้าเขาปั่นจักรยานกลับด้วยขนมที่สั่งจากเจ้าประจำวันแล้ววันเล่าจนในที่สุดเขาตัดสินใจจะทำขนมสักชนิดหนึ่งสำหรับร้านของตนเขาสนใจการทำขนมเค้กของร้านขนมเจ้าหนึ่งในทับเที่ยงสังเกตจดจำการทำชนมชนิดนี้แล้วทดลองทำเขาคิดค้นทำขนมอบจากถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรนำมาตัดเป็นท่อนเจาะช่องด้านข้างสำหรับใส่ถ่านฝาถังน้ำร้อยลวดฝากไว้เพื่อความสะดวกในการเปิดปิดเตานี้ใช้อบขนมเค้กครั้งละ 4 ปอนด์ ส่วนเครื่องตีไข่ก็ใช้ลวดเส้นใหญ่ขดเป็นวงแล้วยึดด้วยไม้ขนาดใหญ่มีด้ามจับใช้ตีด้วยมือเขาทดลองทำหลายครั้งกว่าจะได้ประสบความสำเร็จเป็น เค้กขุกมิ่ง ที่ถูกถามหาของผู้มาเยือนเมืองตรังจนถึงทุกวันนี้
     กล่องใส่ขนมเค้กใช้ตรานกนางแอ่นถลาลมซึ่งมีความหมายว่านกนางแอ่นเป็นนกที่มีความอดทนสามารถบินไปไกลถึงรอบโลกเช่นเดียวกับขนมเค้กนี้ที่ไปไกลถึงอเมริกาผู้ที่ให้ความหมายของสัญลักษณ์นี้คือบุตรชายคนโตของขุกมิ่ง นายแพทย์ขจร วณาพรรณ์ ผู้เป็นประธานชมรมทักษิณคนแรกของเมืองนิวยอร์กและเป็นผู้ให้ชื่อขนมเค้กนี้ว่า เค้กขุกมิ่ง ตามนามของบิดา
     บุตรี 2 คน ดุษฎี ไชยมงคล คือบุตรี คนสุดท้อง และคนกลางคือสุดสงวน ตุงครักษ์ บุตรสาวผู้สืบสานดูแลกิจการของร้านจัดตกแต่งร้านให้ทันสมัยปรับปรุงกล่องบรรจุตลอดจนทำขนมชนิดใหม่ๆนอกจากขนมเค้ก เช่น ขนมจีบไส้สังขยา แยมโรลไส้ถั่วดำ เป็นต้น
     วันนี้ ขุกมิ่ง แซ่เฮง ใน วัย 85 ปี ยังมีสุขภาพแข็งแรงแววตาเจิดจรัสเปล่าประกายแห่งความสุขและความเมตตาชีวิตที่ผ่านร้อนหนาวมายาวนานมากด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมและพร้อมที่จะถ่ายทอดให้แก่บุตรทั้งสามโดยเฉพาะ สุดสงวน ตุงครักษ์  ผู้ดูแลกิจการภายในร้านสืบแทนบิดา