IamTrang.com
 
IamTrang.com
KNOWLEDGE
PEOPLE
PLACE
PRODUCT & SERVICE
RESOURCE
ACTIVITY
LIFESTYLE
NEWS & EVENT
หน้าแรก  >  บุคคลสำคัญของท้องถิ่น  >  บุคคลผู้มีชื่อเสียงทางการเมือง-ก่อเกียรติ ษัฏเสน : ผู้ยืนอยู่ข้างประชาชน

บุคคลผู้มีชื่อเสียงทางการเมือง-ก่อเกียรติ ษัฏเสน : ผู้ยืนอยู่ข้างประชาชน

     พ่อนึกถึงภาพของลูกพ่อตอนไปยืนแถวหน้าร้านของเหล่าพวกผู้ดีมีทรัพย์เหล่านั้นแล้ว พ่อรู้สึกสะท้อนใจอย่างแรง ตัวเตี้ยๆ หน้าแป้นๆ จมูกเล็กๆ ผิวละเอียด เป็นลูกผู้ดีมีสกุล ในมือถือตะกร้าไข่ไก่ เข้าร้านนี้ออกร้านโน้น ปากบอกราคาไข่ ส่อถึงฐานะทางบ้านว่าค่อนข้างอัตคัดอยู่ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่นั้นเล่า  ก็คือชุดนักเรียนเก่าๆ มอๆ นั้นเองเพราะพ่อเข้าเป็นนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีหัวออกจะรุนแรงเอามากๆ  พ่อเขาเกลียดโจรการเมืองอย่างเข้ากระดูกดำ เขาไม่เพียงคัดค้านแต่วาจาทางสภาเท่านั้น แต่เขาเอาทั้งชีวิตทั้งของตัวเขาเองและของลูกเล็กๆ และเมียรักของเขาทุ่มเข้าพลัง ๓ อด (อดออม อดกลั้น อดทน) ซึ่งเขาปลุกเสกขึ้นต่อต้านกับความบัดซบในทางการเมืองยุคนั้น
     จดหมายจากพ่อถึงลูกสาวเพียงคนเดียว บอกความในใจของนักการเมืองใจซื่อมือสะอาด และมีอุดมการณ์อันสูงส่งอีกผู้หนึ่งของแผ่นดินตรัง คือนายก่อเกียรติ ชื่อเดิมนายเวื่อง  ษัฎเสน
     นายก่อเกียรติ  เกิดเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๔๕๒ เป็นบุตรคนที่ ๓ ของหลวงพิทักษ์ เหลียนสถาน (รื่น ษัฎเสน) และนางพิทักษ์เหลียนสถาน (ปราง ษัฎเสน) มีปู่คือ หลวงเรืองฤทธิ์ เดชะราชรองเมือง (แหลม)
     วัยเด็กได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนตำหนักรื่นรมย์ อำเภอห้วยยอด ระดับประถมจากโรงเรียนวัดตันตยาภิรม จบมัธยมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนวิเชียรมาตุ  มัธยมศึกษาปีที่ ๖ จากจากโรงเรียนภูเก็ตวิทยา พ.ศ. ๒๔๗๑ และมัธยมศึกษาปีที่ ๘ จากโรงเรียนสนกุหลาบวิทยาลัย เป็นนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นอย่างมาก ต่อมาได้ศึกษาต่อจนจบหลักสูตรพละเอก พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นครูที่ตรังได้ปีเดียว ก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสรต์ระหว่างพ.ศ. ๒๔๘๐ – ๒๔๘๕ ระหว่างเป็นนักศึกษาได้รับเลือกเป็นประธานนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี ๒๔๘๒
     พ.ศ. ๒๔๘๙ ลงสมัครรับเลือตั้งแต่แพ้นายเลียบ  นิลระตะ  ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ลงสมัครอีกครั้งหนึ่ง ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
     นายก่อเกียรติหาเสียงโดยการขี่มอเตอร์ไซค์ MZ ไปตามท้องที่ต่างๆ เนขึ้นเขาลงห้วย ไปเยี่ยมเยียนดูแลทุกข์สุขราษฎร ต่อต้านข้าราชการทุจริต และมักเจ็บร้อนแทนราษฎรที่ถูกเอาเปรียบ
     จากเป็น ส.ส. อยู่ได้เพียงปีเดียว  จอมพลป. พิบูลสงคราม  ทำรัฐประหารรัฐบาลนายควง  อภัยวงศ์  นายก่อเกียรติจึงประท้วงโดยไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยต่อมาแล้วไปใช้ชีวิตเป็นเกษตรกรปลูกผักทำไร่แตงโม ที่ตำบลกะช่องพร้อมกับศึกษาธรรมะเพื่อประยุกต์กับการเมือง  ในช่วงนี้เองที่ นายควง  อภัยวงศ์  เดินทางมาเยี่ยมถึงไร่ที่กะช่อง  หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในไร่เป็นเวลา ๕ ปี  ในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐  จึงเข้าสู่วิถีการเมืองอีกครั้งหนึ่งในนามของพรรคประชาธิปัตย์จากจังหวัดตรังได้รับเลือกเป็น ส.ส. สมัยที่ ๒ และได้เป็น ส.ส. อีกสมัยหนึ่งเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม ปีเดียวกัน
     บทบาทในฐานะนักการเมืองของเขาเป็นแบบอย่างควรแก่การศึกษา  ในด้านความซื่อสัตย์สุจริต  ต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมแก่ราษฎรบนานของการปกครองระบอบประชาธิปไตย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รักเพื่อนฝูง เป็นนักการเมืองที่ต้องขายทรัพย์สมบัติของตนเองเป็นค่าใช้จ่าย แต่ไม่ยอมขายเกียรติ หรือขายมือ เพื่อแลกกับผลประโยชน์ เป็นนัการเมืองที่ปล่อยให้ลูกเพียงคนเดียวเดินถือตะกร้าขายไข่ไก่
     เรื่องราวที่เล่าลือกันมากเกี่ยวกับนายก่อเกียรติคือการต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ทุกๆ เรื่อง ที่สำคัญคือเรื่องที่ชาวบ้านถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนบางกลุ่มของทางราชการ  จะต่อสู้ให้จนถึงที่สุด จนทำให้ดูเหมือนว่านายก่อเกียรติเป็นผู้แทนที่ชอบ รบกับนาย ในเรื่องนี้เขาให้เหตุผลว่า คนพวกนั้นไม่ใช่คนบ้านเรา  จะรู้เรื่องคนบ้านเราดีกว่าคนบ้านเราได้อย่างไร  เขามาแล้วเขาก็ไปทิ้งไว้เพียงรอย เขาไม่รักคนบ้านเราเหมือนพวกเราหรอก
     ในด้านแนวคิดทางการเมือง เป็นผู้ที่นำความคิดเรื่องธรรมาธิปไตยมาประยุกต์ใช้กับการเมืองเวลานั้น  และเผยแพร่ด้วยแผ่นปลิว  โดยชี้ให้เห็นว่าหลักการประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องเป็นหลักธรรมาธิปไตย  หรือการปกครองโดยหลักธรรมของพุทธศาสนามาประยุกต์ความคิดแนวเดียวกันนี้ก็มีอยู่ในสมัยต่อมาคือ “ธรรมรัฐ”
     ด้านชีวิตครอบครัวของนายก่อเกียรติ  ษัฎเสน  สมรสกับนางสาววรมัย  กบิลสิงห์  เมื่อ ปี ๒๔๘๕ มีบุตรี ๑ คน คือ รศ. ดร. ฉัตรสุมาลย์  กบิลสิงห์  (ษัฎเสน)  ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
     ใน พ.ศ. ๒๕๐๘ ก่อเกียรติ  ษัฎเสน  ได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา ณ วัดท่าตำหนัก อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และมรณภาพอย่างสงบเมื่ออายุ ๗๖ ปี รวมพรรษา ๑๘ พรรษา

 
 
 

จำนวนครั้งที่เปิดอ่าน: 22589
นำเสนอโดย: Peekung
 

Share
IamTrang.com
: :: ชอบ-ชม-ชิม โดย วีร์วิศ
: :: เรื่องเล่าของอิงตะวัน โดย อิงตะวัน
: :: แต่งบ้าน-งานดีไซน์ โดย มะลิริน
: :: จิตเป็นนาย โดย นะโม

 


 
iamtrang.com
iamtrang.com ออกแบบจัดทำและผลิตเนื้อหา+ภาพ โดย บริษัท ดีพี สตูดิโอ จำกัด เลขที่ 32 สุขุมวิท 85 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทร. 02-3311610 โทรสาร 02-3311618 Email: dp@dp-studio.com
Copyright 2009 IamTrang.com All rights reserved สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย