IamTrang.com
 
IamTrang.com
KNOWLEDGE
PEOPLE
PLACE
PRODUCT & SERVICE
RESOURCE
ACTIVITY
LIFESTYLE
NEWS & EVENT

นิทานเรื่อง

     หากนิทานพื้นบ้านยังเป็นที่เชื่อถือและยอมรับกันว่า ตัวละครในเรื่องคือภาพลักษณ์และพฤติกรรมของสังคมนั้นในยุคนั้น ตัวละครคือสภาพทางสัมคมศาสตร์ อันหมายถึงนิสัยใจคอของผู้คน เรื่องราวไอ้เกลอเขา – ไอ้เกลอเล คือภาพลักษณ์และพฤติกรรมของคนเมืองตรังในครั้งกระโน้น แม้จะไม่ทุกส่วน แต่มีลักษณะเป็นองค์รวมของความเป็นคนเมืองตรังอย่างแน่นอน
     เนื้อหาย่อๆ ของนิทาน เล่ากันว่า เมื่อไอ้เกลอไป วังเกลอ หรือเยี่ยมเยือนไอ้เกลอเขา ก็ได้ของฝากเป็น มูสัง หรือชะมด ติดมือกลับบ้านไปหนึ่งตัว โดยไอ้เกลอเขาบอกไอ้เกลอเลเชิงหยอกกันตามประสาเกลอว่า มูสัง เป็นสัตว์เลี้ยงง่าย มันกินเพียงขี้ไก่ก็อยู่ได้แล้ว ด้วยวิถีชีวิตคนอยู่ทะเลที่ไม่เคยรู้จักมูสังจึงนำไปขังไว้ในคอกไก่ตามคำของไอ้เกลอ แต่แล้วก็ต้องสูญเสียไก่ไปทั้งเล้าเพราะถูกมูสังกิน ต่อมาเมื่อไอ้เกลอเขามา วังเกลอ บ้าง ควายเล หรือปูทะเลขนาดใหญ่ก็เป็นของแปลกใหม่ที่ไอ้เกลอเลฝากให้เพื่อนหอบหิ้วกลับบ้าน พร้อมทั้งคำแนะนำเชิงหยอกจากอีกเช่นกันว่า เจ้าควายเลตัวนี้กินน้ำเยี่ยวเป็นอาหาร และถ้าถูกมันฟัน (ปูหนีบ) ก็ให้รีบกัดเขา (ก้าม) อีกข้างของมันทันที เมื่อกลับถึงบ้านไอ้เกลอเขาก็จับเจ้าควายเลใส่กะลังเอาไว้ บอกให้ภรรยาไปเยี่ยวใส่กะละมังเพื่อเลี้ยงเจ้าควายเลตามคำของไอ้เกลอเล ครั้นเวลาค่ำนางก็ไปให้อาหารสัตว์เลี้ยงตามที่สามีบอกปูหรือความเลของไอ้เกลอ เมื่อมีอะไรเข้าใกล้ตัวมันก็จะหนีบเอาโดยสัญชาตญาณป้องกันตัว นางจึงต้องเรียกสามีให้มาช่วย ไอ้เกลอเขาก็รีบก้มหน้าลง เพื่อจะกัดเขาอีกข้างของมันทันที ตามคำแนะนำของไอ้เกลอ ก็เลยถูกก้ามอีกข้างหนึ่งของเจ้าควายเลหนีบแก้มเข้าให้ ในขณะที่ก้ามอีกข้างหนึ่งก็ยังไม่ปล่อย สุดท้ายของเรื่องเมื่อไอ้เกลอทั้งสองมาพบกันอีกประโยคที่สัพยอกกันว่า มึงเสียไก่แค่ตัวสองตัวจะเป็นไรไป...กูทั้งเจ็บทั้งเหม็น ในบางแห่งจึงให้ชื่อนิทานเรื่องนี้ว่า ทั้งเจ็บทั้งเหม็น
     การหยอกล้อระหว่างเพื่อนเกลอในเรื่องให้อารมขันที่อาจโน้มเอียงไปทางสัปดนอยู่บ้าง แต่แท้จริงแล้ว เป็นเพียงสีสันของนิทานที่ห่อหุ้มแก่นเรื่องเท่านั้น หากไอ้เกลอเขาไม่หอบหิ้วความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่ราบเชิงเขาที่มีเกินกินเกินใช้ ไปเยี่ยมเยือนไอ้เกลอเล ข้อมูลใดเล่าที่จะให้ความชัดเจนที่มีสีสันและกลิ่นอายเรื่องราวความเป็นอยู่ของตรังเขา ตรังเล
     ด้วยลักษณะความต่างกันของตรังเขา ตรังนา ตรังเล ได้ถักทอวัฒนธรรมมาจากภูมิปัญญา เป็นภูมิปัญญาองค์รวมของเมืองตรังไว้ให้รับรู้อย่างน้อย 2 ประการ คือ
     วิถีชีวิตแบบ ข้าวบ้านนา พริกบ้านเหนือ เกลือบ้านใต้ ถือเป็นต้นแบบของสังคมสงเคราะห์เกื้อกูลระหว่างกัน ที่สังคมทุนนิยมและบริโภคนิยมใหม่ปัจจุบันเริ่มมองเห็นคุณค่าและอยากกลับไปหาวิถีชีวิตเช่นนั้น
     การไปมาหาสู่ระหว่าง ตรังเขา ตรังนา และตรังเล นอกจากจะก่อสานวัฒนธรรมสังคมสงเคราะห์พึ่งพิงกันแล้ว ยังเป็นการเรียนรู้ระหว่างกัน ถักทอความรัก ความเอื้ออาทรแก่กัน เห็นอกเห็นใจกัน ทำให้คนเมืองตรังได้รับการกล่าวขานจากคนจังหวัดใกล้เคียงกันว่าคนตรังเป็นคนใจใหญ่ (ใจกว้าง)  ใจยาว (คบเพื่อน) ด้วยความเป็นคน ใจใหญ่ ใจยาว ของคนเมืองตรังดังกล่าวน่าจะเป็นสายใยชีวิตจิตใจฝังแน่นอยู่ในคำขวัญเมืองตรังที่ว่าชาวตรังใจกว้างสร้างแต่ความดี
     ตรังเขา ตรังนา ตรังเล ใช่ว่าจะแตกต่างเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะส่วน โดยไม่มีความละม้ายคล้ายคลึงกันเลย ยังมีความละม้ายคล้ายคลึงกันในองค์รวม เช่น ดำรงอยู่บนหลักเกณฑ์แบบสังคมสงเคราะห์เกื้อกูล พึ่งพิงดังกล่าวแล้ว สำหรับความแตกต่างเฉพาะส่วนที่ปรากฎให้เห็นได้ในบริบทของภูมิปัญญา และเทคโนโลยี ขอแยกกล่าวเป็นส่วนตรังเขา ตรังนา ตรังเล เพื่อยืนยันให้เห็นความเชื่อที่ว่า สภาพภูมิประเทศทางภูมิศาสตร์กำหนดวัฒนธรรม

 
 
 

จำนวนครั้งที่เปิดอ่าน: 13454
นำเสนอโดย: Peekung
 

Share
IamTrang.com
: :: ชอบ-ชม-ชิม โดย วีร์วิศ
: :: เรื่องเล่าของอิงตะวัน โดย อิงตะวัน
: :: แต่งบ้าน-งานดีไซน์ โดย มะลิริน
: :: จิตเป็นนาย โดย นะโม

 


 
iamtrang.com
iamtrang.com ออกแบบจัดทำและผลิตเนื้อหา+ภาพ โดย บริษัท ดีพี สตูดิโอ จำกัด เลขที่ 32 สุขุมวิท 85 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ 10260
โทร. 02-3311610 โทรสาร 02-3311618 Email: dp@dp-studio.com
Copyright 2009 IamTrang.com All rights reserved สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย