การบริหารราชการ จังหวัดตรังแบ่งการบริหารราชการออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
1. การบริหารราชการส่วนภูมิภาค
- ระดับจังหวัด ประกอบด้วยส่วนราชการประจำจังหวัด จำนวน 34 หน่วยงาน
- ระดับอำเภอ จังหวัดตรังมี 10 อำเภอ 87 ตำบล 723 หมู่บ้าน
………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การบริหารราชการส่วนกลาง ประกอบด้วย หน่วยงานสังกัดส่วนกลาง ซึ่งจัดตั้งสำนักงานอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดตรัง รวมทั้งสิ้น 102 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวง กรม ต่าง ๆ รวม 70 หน่วยงาน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 19 หน่วยงาน และหน่วยงานอิสระ 13 หน่วยงาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย
(1) องค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง
(2) เทศบาล มี 15 เทศบาล คือ
- เทศบาลนครตรัง
- เทศบาลเมืองกันตัง
- เทศบาลตำบลห้วยยอด (อ.ห้วยยอด)
- เทศบาลตำบลลำภูรา (อ.ห้วยยอด)
- เทศบาลตำบลนาวง (อ.ห้วยยอด)
- เทศบาลตำบลคลองเต็ง (อ.เมือง)
- เทศบาลตำบลโคกหล่อ (อ.เมือง)
- เทศบาลตำบลท่าข้าม (อ.ปะเหลียน)
- เทศบาลตำบลทุ่งยาว (อ.ปะเหลียน)
- เทศบาลตำบลย่านตาขาว (อ.ย่านตาขาว)
- เทศบาลตำบลสิเกา (อ.สิเกา)
- เทศบาลตำบลควนกุน (อ.สิเกา)
- เทศบาลตำบลวังวิเศษ (อ.วังวิเศษ)
- เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ (อ.นาโยง)
- เทศบาลตำบลคลองปาง (อ.รัษฎา)
(3) องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จำนวน 84 แห่ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประชาชนกับการเมืองภายในประเทศ
1. ความสนใจและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
1.1 สถิติการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล สมาชิก อบต. นับว่าประชาชนจังหวัดตรัง ให้ความสนใจและเข้าร่วมทางการเมืองอยู่ในเกณฑ์ที่สูงพอสมควร
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จังหวัดตรังมีสมาชิกสภาผู้ราษฎรได้ 4 คน แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 2 เขตเลือกตั้ง ดังนี้
เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย
1. อำเภอเมืองตรัง
2. อำเภอห้วยยอด
3. อำเภอวังวิเศษ
4. อำเภอรัษฎา
เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย
1. อำเภอกันตัง
2. อำเภอปะเหลียน
3. อำเภอสิเกา
4. อำเภอย่านตาขาว
5. อำเภอนาโยง
6. อำเภอหาดสำราญ
1.2 ความสนใจของประชาชนต่อนโยบายการบริหาร การแก้ปัญหาของรัฐบาล อยู่ในระดับปานกลาง แต่อย่างไรก็ตามประชาชนมีการแสดงออกในเรื่องนี้ โดยการติดตามการบริหารงานทั่วไปในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด โดยแจ้งข้อมูลชี้ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ทราบเพื่อหาทางแก้ไขปรับปรุงต่อไปบ่อยครั้ง
1.3 การแพร่ข่าวสารทางการเมืองในอันที่จะก่อให้เกิดความเคลื่อนไหวของ ประชาชนในรูปแบบต่าง ๆ ในระดับจังหวัดในภาวะปกติยังมีไม่มาก จะมีมากเฉพาะในช่วงฤดูสมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น
………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. การเคลื่อนไหวของประชาชน นักการเมือง พรรคการเมือง สมาคม กลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มอิทธิพล รวมทั้งนักเรียน นิสิต นักศึกษาและกลุ่มศาสนา
การเคลื่อนไหวซึ่งมีแนวโน้มไปในทางสนับสนุน หรือคัดค้านนโยบายของรัฐบาลหรือมีการเคลื่อนไหว ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง อาจกล่าวได้ว่าการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในระดับจังหวัด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศเป็นตัวชี้นำ มีการรวมกลุ่มบ้างเป็นกลุ่มย่อย ๆ แต่ไม่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองแต่อย่างใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การแสดงออกของประชาชน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน ของกลุ่มและของประเทศ รวมทั้งการขัดแย้งระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ ในอันที่จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงทางการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ในจังหวัด เกิดจากการรวมตัวในรูปของการประกอบธุรกิจ อาทิเช่น กลุ่มสมาคมพ่อค้า กลุ่มปรับปรุงคุณภาพยางแผ่น กลุ่มสหกรณ์ การแสดงออกของกลุ่มนั้น ส่วนใหญ่เป็นการแสดงออกเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น ไม่มีการขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มผลประโยชน์ด้วยกัน จึงทำให้ไม่มีการขัดแย้งในอันที่จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงทางการเมืองแต่อย่างใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. การแสดงออกหรือการดำเนินการของนักการเมือง พรรคการเมืองหรือกลุ่มผลประโยชน์ ในอันที่จะต่อสู้เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและเพื่อความเป็นธรรมของสังคม
เนื่องจากการเผยแพร่ข่าวสารของพรรคการเมืองกับประชาชนที่อยู่ภายในจังหวัดโดยตรง ยังไม่ได้ดำเนินการกันอย่างจริงจัง ดังนั้นการแสดงออกของนักการเมือง พรรคการเมืองซึ่งจะดำเนินการในจังหวัดจึงไม่ค่อยมี เว้นแต่กรณีปัญหาในระดับชาติที่เกี่ยวพันถึงภาวะความเป็นอยู่ของประชาชนในจังหวัด จึงจะมีการแสดงออก เช่น ปัญหาราคายางตกต่ำ ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ เป็นต้น นอกจากนั้นการบริหารงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและการดำเนินงานของกลุ่มผลประโยชน์ ก็มิได้สร้างเงื่อนไขทางการเมือง ทางเศรษฐกิจและสังคม อันจะก่อเหตุเดือดร้อนแก่ประชาชน จนกระทั่งต้องมีการลุกฮือกันขึ้นเพื่อต่อต้านความไม่เป็นธรรมในสังคมแต่อย่างใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………
ระบบสื่อสารมวลชน
จังหวัดตรังมีสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง ของกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบในด้านการประชาสัมพันธ์ และประสานสื่อมวลชนภายในจังหวัดตรัง และส่วนกลาง สื่อดังกล่าวประกอบด้วย
2.1 สื่อหนังสือพิมพ์ จังหวัดตรังนอกจากมีหนังสือพิมพ์จากส่วนกลางแล้ว ยังมีหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่พิมพ์จำหน่ายในจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง เป็นรายสัปดาห์ รายปักษ์ และรายเดือน (ไม่มีรายวัน) อีก 9 ฉบับ คือ นสพ.ข่าวเสรี, นสพ.พาราธุรกิจ, นสพ. รักษ์ตรัง, นสพ.มติตรัง, นสพ.ท้องถิ่น, นสพ.แดนสยาม, นสพ.แม่น้ำ, นสพ.รัษฎานิวส์ และ นสพ.ตรังวาไรตี้
2.2 สื่อวิทยุกระจายเสียง จังหวัดตรังมีสถานีวิทยุ 5 สถานี คือ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดตรัง (กรมประชาสัมพันธ์) ออกอากาศใน 2 ระบบ คือ ระบบ เอ.เอ็ม ความถี่ 810 กิโลเฮิร์ท และระบบ เอฟ.เอ็ม. ความถี่ 91.25 เมกกะเฮิร์ท, สถานีวิทยุ
กระจายเสียง วปถ.17 จังหวัดตรัง (กรมการสื่อสารทหารบก) ออกอากาศในระบบ เอ.เอ็ม. ความถี่ 1350 กิโลเฮิร์ท, สถานีวิทยุกระจายเสียงกองทัพภาคที่ 4 (ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์) ออกอากาศในระบบเอฟ.เอ็ม. ความถี่ 103.0 เมกกะเฮิร์ท, สถานีวิทยุกระจายเสียงตำรวจภูธรภาค 9 จังหวัดตรัง ออกอากาศในระบบ เอฟ.เอ็ม.106.75 เมกกะเฮิร์ท และสถานีวิทยุกระจายเสียง อ.ส.ม.ท.จังหวัดตรัง (องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย) ออกอากาศในระบบ เอฟ.เอ็ม ความถี่ 106.25 เมกกะเฮิร์ท
2.3 สื่อวิทยุโทรทัศน์ จังหวัดตรังสามารถรับชมโทรทัศน์ได้ทุกช่อง ได้แก่ ช่อง 3 (อ.ส.ม.ท.) ช่อง 5 (กองทัพบก) ช่อง 7 (กองทัพบก) ช่อง 9 (อ.ส.ม.ท.) ช่อง 11 (กรมประชาสัมพันธ์) และช่อง ทีไอทีวี. และมีสถานีเคเบิลทีวี อีก 1 สถานี ทุกสถานีมีเครื่องส่งตั้งในพื้นที่จังหวัดตรัง ในการเผยแพร่ข่าวสารของจังหวัดตรัง ทางด้านสถานีโทรทัศน์จะมีทีมผู้สื่อข่าวประจำทุกช่องในจังหวัดและจะส่งข่าวสารไปเผยแพร่ โดยใช้ศูนย์ข่าวภาคใต้ (อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา) เป็นศูนย์รวมข่าว และส่งเข้ากรุงเทพฯ ต่อไป ยกเว้น ช่อง 11 จังหวัดตรัง (กรมประชาสัมพันธ์) สามารถส่งข่าวสารเข้ากรุงเทพฯ ได้ทันทีจากจังหวัดตรังโดยใช้ระบบดาวเทียม ในระดับอำเภอ/กิ่งอำเภอ จะมีระบบเสียงตามสายของ อบต. และเทศบาลใช้เผยแพร่ข่าวสาร ส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็มีหอกระจายข่าวของหมู่บ้านทุกหมู่บ้าน นอกจากนั้นยังมีศิลปิน พื้นบ้าน ทั้งหนังตะลุง มโนราห์ เป็นผู้ช่วยเผยแพร่ข่าวสารได้อีกทางหนึ่งจากสื่อที่ได้กล่าวมาแล้วด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. การรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดได้ถือนโยบายการรักษาความสงบเรียบร้อย เป็นนโยบายที่สำคัญที่จะให้เกิดความสงบสุขแก่ประชาชน โดยตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการรองรับแผนนโยบาย แนวทางการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีแผนงานสำคัญ ๆ ดังนี้ คือ การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม การกวดขันปราบปรามแหล่งอบายมุข การบังคับค้าประเวณีและการค้าประเวณีเด็ก การักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว การป้องกันและปราบปราม ยาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยตำรวจภูธรจังหวัดตรังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองออกอำเภอ เคลื่อนที่ จัดตั้งชุดชุมชนและมวลชนสัมพันธ์และให้ความรู้ด้านกฎหมายต่าง ๆ แก่ประชาชน เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ได้มีการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติภัย โดยจัดให้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎจราจรแก่ประชาชน ออกแผนการให้ความปลอดภัยและกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎจราจร จัดทำโครงการลดอุบัติภัยจากการจราจร จัดสัปดาห์รณรงค์เพื่อลดอุบัติภัยจากการจราจร มีการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้เกิดความสำนึกในหน้าที่พลเมืองที่ดี จะได้ร่วมมือกันช่วยเหลือตนเอง และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยปฏิบัติในสังกัดอย่างสม่ำเสมอ