จดหมายถึงดวงดาว ตอน 24: ทางเดินแห่งฝัน

มันมิใช่ “ความฝัน” เด็กสาวเอ่ยขึ้นต่อหน้าดวงดาว บอกฉันสิดวงดาวว่ามันมิใช่ความฝันใช่ไหม? ดวงดาวสบตาเด็กสาวด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความห่วงใย “ฉันมิได้ทอดทิ้งเธอหรอกนะ” ฉันเพียงแค่ต้องเดินทาง ฉันสัญญาว่าวันหนึ่งฉันจะกลับมาหาเธอ ดวงดาวเอ่ยคำสัญญากับเด็กสาวผู้อ่อนไหว เด็กสาวได้แต่ยืนฟังดวงดาวอย่างเงียบงันพลางมองหน้าดวงดาวอย่างเด็กสาวผู้สิ้นหวัง “เดินทางงั้นหรือ” คำถามจากเด็กสาวเสียงบางเบาเหลือเกิน เธอไม่สนใจคำตอบจากดวงดาวเสียด้วยซ้ำ “เดินทาง” มันเป็นคำพูดที่ใช้ได้ดีไม่น้อยเลยสำหรับคนที่ต้องการจากไป บอกฉันด้วยสิดวงดาวว่านั่นคือการเดินทางตามฝันของเธอ เด็กสาวพูดจาประชดประชันดวงดาวผู้ซึ่งเป็นมิตรภาพเดียวที่เธอหลงเหลือในเวลานี้ “เธอไม่ดีใจหรอกหรือที่ฉันได้เดินทางตามฝัน” ดวงดาวเอ่ยย้อนถามเด็กสาว เธอเงยหน้าสบตาดวงดาวแล้วตอบไปว่า “หากฉันไม่ดีใจเธอจะไม่เดินทางตามฝันงั้นหรือ” ก็เปล่ามิใช่หรือ เพราะฉะนั้นฉันจะสุขหรือไม่สุขใจกับการเดินทางตามฝันของดวงดาว คำตอบของฉันก็ไร้ประโยชน์กับการเดินทางครั้งนี้อยู่ดี ฉันแสดงอาการเสียใจที่ดวงดาวมาร่ำลาก็มิได้หมายความว่าฉันไม่สุขใจกับการได้เห็นมิตรภาพที่รักได้เดินทางตามความฝันของตัวเองหรอกนะ และแม้ว่าฉันจะมีรอยยิ้มตอบรับคำร่ำลาก็ใช่ว่าฉันจะสุขใจนักที่ได้เห็นมิตรภาพที่รักกำลังจะเดินทางไกลห่างออกไป เธอตัดสินเด็กสาวอย่างฉันจากสีหน้าไม่ได้หรอกดวงดาว หากเธออยากจะรู้นักว่าฉันดีใจด้วยกับเธอหรือไม่ ก็จงรับรู้ไว้ว่า “ฉันดีใจเสมอ” เด็กสาวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอหันหลังให้ดวงดาวเพื่อหลบซ่อนแววตาที่เอ่อล้นด้วยน้ำตา ก่อนจะเอ่ยคำพูดต่อไปว่า…ครั้งหนึ่งมีใครคนหนึ่งเดินมาบอกกับฉันว่า “เค้าต้องการจะเดินทางตามฝัน” เค้าบอกให้ฉันนั่งรอเค้าอยู่ตรงนี้ พร้อมเอ่ยคำสัญญาที่ว่าวันหนึ่งเมื่อฝันของเค้าสำเร็จ “เค้าจะกลับมา” แล้วเค้ากลับมาหาเธอหรือเปล่า? ดวงดาวถามต่อทันที “เค้าจะกลับมาได้อย่างไรล่ะดวงดาว” ในเมื่อถนนแห่งความฝันของเรามีกันคนละเส้น ช้าหรือเร็วต่างคนก็ต่างต้องเดินทางตามฝันของตน ปลายทางแห่งนั้นจะบรรจบกันได้หรือไม่ก็อยู่ที่ว่า“ทางเดินแห่งฝัน” ของเราจะเป็นถนนเส้นเดียวกันหรือไม่… ฉันมิได้ใช้ชีวิตอยู่เพราะเชื่อในคำมั่นสัญญาของคนๆหนึ่งหรอกนะดวงดาว แต่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่เพื่อเดินทางตามฝันของตัวฉันเองเช่นกัน และอย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้ข้อสรุปหนึ่งที่ว่า เมื่อถึงเวลาอันควร “บททดสอบหนึ่ง” จะมาพิสูจน์คนสองคนบนถนนอันยาวไกล ผู้แพ้ใจตัวเองจะเดินนำหน้าไปอีกทาง ผู้ชนะใจตัวเองจะเดินบนทางเส้นเดิมเสมอ แล้วสุดท้ายสองคนจะได้คำตอบว่าบททดสอบบนถนนสายนั้น เอาชนะได้ด้วยใจ หรือพ่ายลงด้วยวันเวลา “ฉันมิได้เอาชนะใจตัวเองได้สำเร็จหรอก” แต่ทุกวันนี้ฉันก็ยังคงเดินทางบนถนนเส้นเดิมเส้นนั้นเสมอโดยไม่เคยได้พบเจอเจ้าของคำสัญญานั้นอีกเลย เพราะฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่า “ฝันของเรา” มิใช่ทางเดียวกัน และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ฉันจะต้องทำหน้าที่ “มิตรที่ดี” แสดงความยินดีกับเธอด้วยนะดวงดาวที่กำลังจะได้เดินทางตามฝันของตัวเอง ฉันได้แต่หวังว่าสักวันสุดสายของถนนของเธอและฉันจะบรรจบกันได้ เราจะได้มีโอกาสได้เจอกันอีกครั้งหนึ่ง เด็กสาวพูดพลางหันมาสวมกอดดวงดาวไว้แน่น “ฉันมิได้กล่าวโทษใครเลยในวันที่ไม่มีใครเข้าใจฉัน เพราะฉันรู้ว่าไม่มีใครรู้จักตัวตนของใครคนหนึ่งได้ดีพอนอกจาก “ตัวของเราเอง” ฉันส่งเธอตรงนี้นะดวงดาว ขอให้การเดินทางของเธอราบรื่น ขอให้ชีวิตเธองดงามดังฝัน ขอให้มิตรภาพดีดีระหว่างเราติดอยู่ในหัวใจไปจนนิรันดร์ เด็กสาวค่อยๆ ปล่อยดวงดาวออกจากอ้อมกอด เธอส่งยิ้มให้ดวงดาวทั้งน้ำตา “แล้วฉันจะพยายามเติบโตอย่างเข้มแข็ง” เหมือนที่ดวงดาวเคยบอกเสมอ “ฉันสัญญา” เด็กสาวเอื้อมมือปาดน้ำตาที่กำลังไหลนองเต็มสองแก้ม แววตาคู่นั้นของเด็กสาวเรียกน้ำตาของดวงดาวได้เช่นกัน ประโยคสุดท้ายที่ดวงดาวได้เอ่ยกับเด็กสาว “เธอจงเชื่อมั่นในมิตรภาพอย่างฉัน” เธอเป็นมิตรภาพที่ฉันมีช่วงเวลาที่อยากจะจดจำ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อ้อมกอด ทุกอย่างมันติดอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอ มิตรภาพมันช่างวิเศษนัก มันทำให้ภาพความทรงจำทุกภาพตีค่าความหมายออกมาเป็นคำว่า “คิดถึง” ฉันจะคิดถึงเธอเสมอ ดวงดาวเอ่ยก่อนจะโบกมือลาเด็กสาวด้วยน้ำตาที่อาบเต็มสองแก้มเช่นกัน….

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>