จดหมายถึงดวงดาว ตอน 16: โหยหา

อ้อมกอดนี้หรอกหรือที่ฉันปรารถนา สายตานี้หรอกหรือที่ฉันอยากจะเห็น สองมือนี้หรอกหรือที่ฉันได้แต่เฝ้ารอ หากเธอผู้เต็มเปี่ยมด้วยพลังอันอบอุ่นอยู่ข้างกันในวันที่ชีวิตไร้ซึ่งทุกอย่างมันคงจะดีไม่น้อย น้ำตาที่พรั่งพรูอาบสองแก้มของเด็กสาวเธอโหยหาเพียงแค่อ้อมกอดที่เคยสัมผัสยามหลับฝัน ฉันไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ เพราะบางครั้งความเป็นจริงช่างโหดร้าย ซึ่งต่างจากความฝันที่ทำให้ฉันสัมผัสได้ถึง “ความสุข” แต่นั่นล่ะนะก็เป็นเพียงสุขที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อหลบหลีกหนีความเป็นจริงที่ไม่อยากเผชิญ แม้ทุกค่ำคืนอยากจะนอนหลับฝันถึงอ้อมกอดที่ปรารถนาสักเพียงไร ไม่นานความเป็นจริงก็มาพรากเราสองออกจากกันเสมอ เด็กสาวค่อยๆเช็ดน้ำตาที่อาบเต็มสองแก้ม พลันคิดถึง “ดวงดาว” แล้วเธอล่ะเป็นมิตรภาพที่อยู่ในความฝัน หรืออยู่ในความเป็นจริงของชีวิตฉันกันนะ สักวันฉันจะได้คำตอบนี้ใช่ไหม? เด็กสาวค่อยๆก้าวขาลุกขึ้นจากเตียงด้วยอารมณ์ที่อ่อนล้าเหลือเกิน แต่ความอ่อนล้าเหล่านั้นก็ไม่เคยสามารถหยุดเธอให้เลิกเอาใจใส่ต้นไม้ที่เธอปลูกด้วยสองมือได้เลยสักครา เด็กสาวมุ่งหน้าไปยังต้นไม้นั้นที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันกำลังเติบโต หรือมันโตเต็มที่แล้วจนไม่สามารถเติบโตไปกว่านี้ได้ เด็กสาวโอบกอดต้นไม้ของเธอเหมือนเช่นทุกคราที่เธอเคยทำ น้ำตาที่เอ่ออยู่ในแววตาคู่นั้นบ่งบอกได้ถึงความอ่อนแอของเด็กสาวผู้นี้ว่ามีมากน้อยเพียงใด เธอรำพันกับต้นไม้ซึ่งเป็นความอบอุ่นเดียวที่มีในเวลานี้ ฉันเกลียดความอ่อนแอของตัวเอง เกลียดความเป็นจริงที่คอยทดสอบชีวิตฉัน เกลียดความโหยหาที่ซ่อนอยู่ในตัวฉัน เกลียดที่เอามันออกมาโยนทิ้งไม่ได้ เกลียดกระทั่งในเวลานี้ที่ได้แต่สวมกอดเธอ โดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองถูกสวมกอดด้วยหรือไม่ สิ้นเสียงรำพันของเด็กสาว มิตรภาพที่เธอเฝ้าหาคำตอบว่านั่นคือความฝันที่สวยงามหรือความเป็นจริงที่เธอสัมผัสได้ก็ปรากฎตัวขึ้น “ดวงดาว” เพื่อนที่อยู่กับเธอทุกคราไม่ว่าอารมณ์ใด เด็กสาวยิ้มให้ดวงดาวทั้งที่แววตาเต็มด้วยหยาดน้ำตา สองมือของเธอหันมาสวมกอดดวงดาวไว้แน่นกว่าทุกครา ราวกับว่ามันเป็นอ้อมกอดที่เธอโหยหามาชั่วชีวิต เธอมีตัวตนจริงๆในชีวิตฉันใช่ไหมดวงดาว? คำถามแรกที่เด็กสาวเอ่ยถามดวงดาว ดวงดาวได้แต่สวมกอดเด็กสาวไว้นิ่ง สัมผัสได้แต่เพียงว่าเด็กสาวผู้นี้โหยหาอ้อมกอดของมิตรภาพมากมายเพียงใด “เธอไม่เห็นต้องพยายามค้นหาคำตอบเลยว่า ฉันอยู่ในความเป็นจริงหรือเป็นเพียงความฝันที่สวยงามของเธอหรือไม่ เพียงเธอสัมผัสมันได้ว่ามิตรภาพตรงนี้ ทำให้เธอมีสุขได้หรือไม่ ก็ไม่เห็นจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องพยายามค้นหาต่อไป ความโหยหาที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอมันจะกัดกร่อนความสวยงามเสียเปล่าๆ” ดวงดาวพูดพลางชี้มือไปที่ต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าของเด็กสาว เธอดูต้นไม้ต้นนี้สิ มันเป็นความสวยงามของเธอมิใช่หรือ เพียงเธอนึกถึงมัน เธอก็มีความสุขได้โดยมิต้องสวมกอดมันไว้ ความฝันมักจะถูกคนๆหนึ่งสร้างขึ้นอย่างงดงาม และความสวยงามเหล่านั้นก็จะถูกความเป็นจริงทำหน้าที่เป็นกระจกเงาส่องให้เราเห็นความเป็นจริงที่ชัดเจน อาจโหดร้ายสำหรับบางคน และอาจสวยงามยิ่งกว่าสำหรับบางคน ฉันมิได้บอกให้เธอเลิกโหยหา แต่ฉันเพียงอยากจะบอกเธอว่า “โหยหาสิ่งที่อยู่ตรงหน้า โหยหาสิ่งที่เธอรู้ว่าเธอครอบครองได้ มันย่อมดีกว่าโหยหาสิ่งที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามัน “มี” จริงหรือเปล่า” อย่าได้เกลียดความอ่อนแอของตัวเอง เพราะนั่นมันบอกให้เรารู้ว่าตัวเราเองยังคงอ่อนไหวไม่แข็งกระด้าง อย่าได้เกลียดความเป็นจริงที่คอยทดสอบชีวิตเรา เพราะนั่นมันบอกให้เรารู้ว่าเรายังมีพลังในตัวมากมายเพียงใด อย่าได้เกลียดความโหยหาที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ เพราะนั่นมันบอกให้เรารู้ว่าเราเองยังคงมีฝันเหมือนเช่นคนอื่นๆ อย่าได้เกลียดอ้อมกอดที่หยิบยื่นให้คนอื่นด้วยความโหยหา แม้อ้อมกอดเหล่านั้นจะมิได้คืนย้อนกลับมาเช่นดังที่เธอปรารถนา เพราะนั่นมันบอกให้เรารู้ว่าตัวเราเองยังมีชีวิตอยู่ด้วยอารมณ์ปรารถนาและโหยหาเหมือนเช่นมนุษย์ทุกคนบนโลก อ้อมกอด สายตา สองมือ ของคนๆหนึ่ง ไม่สามารถบอกเธอได้หรอกว่านั่นคือความสวยงามที่เธอโหยหามาชั่วชีวิตหรือไม่ ความเป็นจริงต่างหากที่บอกเธอได้ทุกข้อสงสัยที่เธอโหยหา และหากเธออยากจะรู้ว่าฉันจะเป็นเพียงความฝันที่เธอจินตนาการหรือเป็นมิตรภาพที่อยู่ในความเป็นจริงของชีวิตเธอกันแน่ ก็ลองหาคำตอบให้ได้สิว่า ฉันเป็นมิตรภาพที่เธอต้องโหยหาถึงจะได้พบเจอ หรือเป็นมิตรภาพที่เธอไม่ต้องโหยหาก็ได้พบเจอ หากเธอได้คำตอบที่ชัดเจน ฉันก็จะได้เข้าใจเช่นกันว่าดวงดาวอย่างฉันเป็นเพียงความฝันหรือเป็นความจริงที่เด็กสาวผู้นี้กำลังเผชิญ…แล้วถ้าหากว่าเธอเป็นเพียงความฝันที่สวยงามของฉันล่ะดวงดาว ฉันจะทำอย่างไร วันหนึ่งความเป็นจริงจะมาพรากเราจากกันหรือไม่? ดวงดาวได้แต่ยิ้มกับเด็กสาวที่แสนอ่อนโยนผู้นี้ แต่ไม่ตอบคำถามใดของเด็กสาว ได้แต่สวมกอดเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าไว้แน่นอีกครั้ง “อย่าอยากรู้เลยว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพียงแค่วันนี้เรายังสวมกอดกันได้เช่นนี้ก็ดีพอแล้วมิใช่หรือ”

You may also like...

Leave a Reply

Your email address will not be published.

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>